เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย เดินทางไปพบปะหารือร่วมกับชาวไร่ยาสูบ ผู้บ่มอิสระ สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบไทย และภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย รวมจำนวน 45 ราย ณ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวว่า การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ประสบกับวิกฤตใหญ่ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งมีหลายปัจจัยของการเกิดวิกฤต ได้แก่ ภาษีนำเข้าวัตถุดิบ โครงสร้างทางภาษี การแข่งขันทางการค้า การปรับตัวของ ยสท. รวมถึงกฎหมายการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ ที่ส่งผลให้บุหรี่ของ ยสท. มีราคาสูงขึ้นจนใกล้เคียงกับบุหรี่นำเข้าจากต่างประเทศ จากปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยาสูบไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ ยสท. ที่ต้องเผชิญปัญหาความยากลำบากในการดำเนินงาน แต่ยังรวมถึงชาวไร่ยาสูบ ผู้บ่มอิสระ ร้านขายยาสูบทั่วประเทศ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน รวมแล้วมากกว่า 600,000 ราย
ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวต่อว่า ยสท. ไม่เคยนิ่งเฉยกับปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวไร่ยาสูบและภาพรวมของอุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งที่ผ่านมา ยสท. ได้ผลักดันให้มีการใช้งบประมาณกลางของรัฐบาลและของ ยสท. ในการสนับสนุนค่าปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเยียวยาชาวไร่ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการรุกตลาดต่างประเทศ ส่งใบยามัดกำออกไปจำหน่ายทั้งใบยาเบอร์เลย์และใบยาเตอร์กิซ ซึ่งใบยาสองชนิดนี้มียอดจำหน่ายที่ดีและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ส่วนใบยาเวอร์ยิเนียนั้นมีราคารับซื้อจากชาวไร่สูงกว่าราคาตลาดโลก จึงมีสต๊อกคงเหลืออยู่ประมาณสองล้านกว่ากิโลกรัม ซึ่ง ยสท. ยินดีรับภาระในส่วนนี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงอยากขายออกเพื่อเป็นการระบายสต๊อก แต่ติดปัญหาเรื่องของราคา ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังผลักดันอยู่คือการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวไร่ เพื่อเยียวยาหรือแก้ปัญหาในเวลานั้นๆ ยสท. มีแนวคิดที่จะจัดตั้งกองทุนดังกล่าวขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา ยสท. ได้มอบเงินสนับสนุนให้กองทุนต่างๆ มากมายปีละหลายล้านบาท แต่ ยสท. กลับไม่มีกองทุนที่ช่วยเหลือชาวไร่ ทั้ง ๆ ที่ชาวไร่เหล่านี้คือต้นน้ำของอุตสาหกรรมยาสูบ เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญในการผลิตบุหรี่ให้กับ ยสท. ดังนั้น รายได้จากการจำหน่ายบุหรี่จึงควรแบ่งให้กับชาวไร่ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ ยสท. โดยตรง เราเป็นหน่วยงานที่ปิดทองหลังพระมาโดยตลอด ด้วยข้อจำกัดของ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ จึงทำให้ ยสท. ไม่สามารถบอกสังคมได้ว่าเราทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง แม้ว่าเราจะผลิตบุหรี่ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่เราไม่เคยสนับสนุนให้มีการบริโภคบุหรี่เพิ่ม เพียงแต่ยังคงต้องประกอบธุรกิจนี้ไว้ เพื่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ แน่นอนว่าในอนาคตจำนวนผู้สูบบุหรี่จะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ณ เวลานี้ สิ่งที่ควรทำคือการพูดคุยถึงแผนและเป้าหมายระยะยาวของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้แก่ มิติด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข มิติด้านเศรษฐกิจของกรมสรรพสามิต มิติด้านสังคมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ ยสท. เช่น การวางแผนว่านับจากนี้ไปอีก 10 ปี จะตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้บริโภคบุหรี่ลงคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น เพื่อจะได้กำหนดเป็นแผนแม่บทในระยะยาวร่วมกันทั้ง 3 มิติ และทำงานควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกิตติทัศน์ ผาทอง ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจแทนชาวไร่ยาสูบทั้งประเทศ ที่ผู้ว่าการ ยสท. ได้ลงพื้นที่มาพบปะพูดคุยกับชาวไร่ ผู้บ่มอิสระ เพื่อสื่อสารถึงประเด็นปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเป็นการตอบโต้กันและสะท้อนปัญหากันผ่านทางสื่อมวลชน ก็ขอขอบคุณผู้ว่าการ ยสท. ที่ให้ความสำคัญกับชาวไร่ และสัญญาว่าจะปรับขึ้นราคาให้ หลังจากนี้ก็จะรอดูตัวเลขว่าขึ้นราคาให้ได้เป็นจำนวนเท่าใด
นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การพบปะกับผู้ว่าการ ยสท. ในวันนี้ ทำให้ชาวไร่และผู้บ่มได้มีความใกล้ชิดกับผู้บริหารของ ยสท. มากขึ้น ดีใจที่ผู้ว่าการประกาศจะขึ้นราคารับซื้อ ส่วนสิ่งที่อยากให้ ยสท. สนับสนุนเพิ่มเติมคือต้นทุนค่าปัจจัยการผลิต เนื่องจากมีราคาสูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ค่าแรง รวมถึงใบยาเวอร์ยิเนียที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตนเข้าใจในสิ่งที่ ยสท. ต้องแบกรับ และขอบคุณผู้ว่าการ ยสท. ที่ไม่ทอดทิ้งชาวไร่ยาสูบ
นายสุระ พิมสาร นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การได้ร่วมกิจกรรมพบปะพูดคุยกับผู้ว่าการและผู้บริหาร ยสท. ในครั้งนี้ ช่วยลดช่องว่างระหว่างชาวไร่กับ ยสท. ทำให้มีความใกล้ชิดและเข้าใจกันมากขึ้น ชาวไร่เองรับทราบถึงปัญหาที่ ยสท. กำลังเผชิญอยู่ซึ่งเป็นความยากลำบาก เพราะธุรกิจบุหรี่เป็นสิ่งที่ทำลายสุขภาพ ในขณะเดียวกันก็เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้สู่รัฐ ต้องขอบคุณ ยสท. ที่เห็นความสำคัญของชาวไร่ สิ่งที่อยากให้ ยสท. ช่วยเหลือคือเรื่องของต้นทุนค่าปัจจัยการผลิต
นายสุธีร์ ชวชาติ นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดลำปาง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผู้ว่าการ ยสท. ลงพื้นที่มาพบปะพูดคุยกับชาวไร่อย่างใกล้ชิด และยังได้พูดถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ตนทราบดีว่าผู้ว่าการ ยสท. ทำงานหนักมาก หลังจากนี้เราคงต้องร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อให้อุตสาหกรรมยาสูบยังคงขับเคลื่อนต่อไปได้ ขอขอบคุณผู้ว่าการ ยสท. ที่ประกาศข่าวดีเรื่องการขึ้นราคารับซื้อใบยาสูบ แม้จะยังไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัด แต่เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการช่วยเหลือชาวไร่ของ ยสท. นอกจากการพบปะพูดคุยกันแล้ว ในวันนี้ ยสท. ยังได้นำผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากใบยาสูบมามอบให้กับชาวไร่ด้วย ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะ ยสท. พยายามที่จะคิดค้นนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยใช้วัตถุดิบใบยาสูบของพวกเราเป็นส่วนประกอบ ทั้งสบู่ น้ำหอม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ต่อยอดเป็นของขวัญของฝาก ของที่ระลึกที่มีคุณค่า
นายอรุณ โปธิตา ผู้แทนชาวไร่เวอร์ยิเนียจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ชาวไร่ได้รับทราบถึงสถานการณ์ต่าง ๆ และผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจยาสูบ ทุกอย่างเป็นผลพวงมาจากการปรับโครงสร้างภาษี การสื่อสารของผู้ว่าการ ยสท. ในวันนี้ ทำให้ชาวไร่เข้าใจถึงปัญหาต่างๆ มากขึ้นอย่างรอบด้าน และรู้สึกดีใจที่ ยสท. ไม่ทอดทิ้งชาวไร่ อยากให้ ยสท. ผลักดันโครงการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวไร่ให้สำเร็จ เพราะชาวไร่ยาสูบไม่ได้รับความช่วยเหลือเหมือนกับเกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่นๆ ทั้งที่ชาวไร่ยาสูบเองก็ประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติ สภาพอากาศ และต้องการความช่วยเหลือเยียวยาในด้านต่าง ๆ จะเห็นได้ว่ามีหลาย ๆ กองทุนที่ได้งบประมาณจาก ยสท. ในรูปแบบภาษี ในขณะที่ชาวไร่ซึ่งเป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมยาสูบ กลับไม่ได้อะไรเลย
นายมานิตย์ คำเขียว ผู้แทนชาวไร่เวอร์ยิเนียจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ผู้ว่าการ ยสท. ท่านนี้มีแนวคิดที่เฉียบคมและเข้าถึงชาวไร่อย่างแท้จริง รู้สึกดีใจที่ท่านจะขึ้นราคารับซื้อใบยาสูบ การได้รับฟังสิ่งที่ผู้ว่าการสื่อสารในวันนี้ ทำให้เข้าใจถึงปัญหาและสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรอบด้านในทุกมิติ เข้าใจทั้งในมุมของรัฐบาล มุมของ ยสท. และในมุมของชาวไร่ รู้สึกประทับใจที่การพบกันในวันนี้เป็นการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มาแชร์ไอเดียกัน อยากให้ ยสท. จัดกิจกรรมเช่นนี้อีกในทุก ๆ ปี ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ชาวไร่ และ ผู้บริหาร ยสท. ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
นายสงกรานต์ ภักดีจิตร ประธานชมรมชาวไร่เบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผู้ว่าการ ยสท. มีความใส่ใจและให้ความสำคัญกับชาวไร่ยาสูบ ที่ผ่านมา ยสท. ก็ให้ความช่วยเหลือชาวไร่ในหลายๆ เรื่อง และเข้าใจในสิ่งที่ ยสท. ต้องเผชิญและแบกรับด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางกระแสสังคม ขอบคุณผู้ว่าการ ยสท. ที่ประกาศจะขึ้นราคารับซื้อใบยาสูบ ถือเป็นข่าวดีที่ทุกคนรอคอย ส่วนสิ่งที่อยากให้ ยสท. ช่วยเหลือเพิ่มเติมคือเรื่องของต้นทุนค่าปัจจัยการผลิตซึ่งสูงขึ้น และผลักดันโครงการกองทุนช่วยเหลือชาวไร่ให้สำเร็จตามที่ตั้งใจ เพราะชาวไร่ยาสูบเองต้องเผชิญกับปัญหาสภาพอากาศ พายุฤดูร้อน และการขาดแคลนน้ำ
นายสัน หารสุโพธิ์ ประธานชมรมชาวไร่เตอร์กิซ บ้านไผ่ กล่าวว่า กิจกรรมการพบปะพูดคุยกับผู้ว่าการในวันนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดี เพราะเป็นเวทีที่ได้พุดคุยกัน สะท้อนปัญหากันอย่างใกล้ชิด วันนี้ได้รับทราบถึงปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ได้ทราบแนวคิดและมุมมองจากผู้ว่าการ ยสท. และได้รับทราบข่าวดีเรื่องการปรับขึ้นราคารับซื้อใบยาสูบ ซึ่งอาจจะเริ่มในปีหน้า เพราะไม่ทันในปีนี้ อยากให้ ยสท. ช่วยเหลือต้นทุนค่าปัจจัยการผลิต และดีใจที่ผู้ว่าการ ยสท. มุ่งมั่นในการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ในระยะยาวอย่างยั่งยืน
ผู้ว่าการ ยสท. กล่าวในตอนท้ายโดยให้คำมั่นสัญญากับชาวไร่ว่า จะขึ้นราคารับซื้อใบยาสูบอย่างแน่นอน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ โดยการขึ้นราคานี้อยู่บนพื้นฐานของการที่ ยสท. มีกำไร และชาวไร่ก็มีรายได้เพิ่ม ส่วนจะขึ้นราคาเป็นจำนวนเท่าใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดว่าจะขึ้นราคาได้ในปีหน้า ส่วนเรื่องใบยาสูบเวอร์ยิเนีย ยสท. ก็พยายามแก้ปัญหาอยู่ เนื่องจากราคาของใบยาเวอร์ยิเนียนั้นสูงกว่าราคาตลาดโลก ทางฝ่ายตลาดก็พยายามหาตลาดในการจำหน่าย ซึ่งตอนนี้สามารถส่งออกไปขายได้ประมาณห้าแสนกิโลกรัม ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี หากสต็อกเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ยสท. ก็จะรับซื้อใบยาเวอร์ยิเนียจากชาวไร่ในปริมาณเท่าเดิมได้ ซึ่ง ยสท. เข้าใจในความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ และอยากให้ชาวไร่เข้าใจในสิ่งที่ ยสท. เร่งดำเนินการอยู่เช่นกัน เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ย่อมต้องมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกันและจับมือกันก้าวผ่านวิกฤตต่าง ๆ ไปด้วยกัน
กองสื่อสารองค์กร